สัตว์ชนิดแรกที่ถูกส่งขึ้นไปยังอวกาศ คือ แมลงวันผลไม้ ซึ่งถูกส่งขึ้นไปพร้อมกับจรวดวี 2 ขอสหรัฐอเมริกา พร้อมๆกับเมล็ดข้าวโพด เมื่อกลางเดือน กรกฎาคม 1946
** ชาวรัสเซีย ชอบส่งสุนัขขึ้นไปทดลองเพราะเชื่อว่าสุนัขน่าจะอดทนได้มากกว่าลิง แต่ชาวอเมริกาจะส่ง ลิงชิมแปญซีขึ้นไป
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.myfirstbrain.com/main_view.aspx?ID=81904
นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียเลือกสุนัขในการทดลองนำขึ้นสู่อวกาศ เพราะเชื่อว่าสุนัขน่าจะอยู่เฉย อยู่นิ่ง ได้ดีกว่าสัตว์อื่นๆ ตอนที่ฝึกสุนัขพวกนี้ ก็มีการขังไว้ในกล่องเป็นเวลาหลายๆวันด้วย
** ชาวรัสเซีย ชอบส่งสุนัขขึ้นไปทดลองเพราะเชื่อว่าสุนัขน่าจะอดทนได้มากกว่าลิง แต่ชาวอเมริกาจะส่ง ลิงชิมแปญซีขึ้นไป
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.infoforthai.com/forum/index.php?topic=3366.0;wap2
“กอร์ดอน” เป็นลิงตัวแรกของโลกที่สหรัฐฯ ส่งให้อยู่ในสภาพไร้น้ำหนักถึง 8.3 นาที จากนั้น สหรัฐฯ ก็ชิงตำแหน่งส่งสิ่งมีชีวิตตัวที่ 2 และ 3 ออกสู่วงโคจร ซึ่งเป็นลิงชื่อ “เอเบิล” และ “เบเกอร์” ในวันที่ 28 พ.ค.2502
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9500000116227
“แอนท์-โรเนาต์” หรือ รังมดที่มีแมลงจิ๋ว 6 ขากว่า 800 ชีวิต ได้ถูกขนขึ้น ยานซิกนัส (Cygnus) ของบริษัทออร์บิทัลไซนส์คอร์เปอเรชัน บริษัทเอกชนที่ทำสัญญากับองค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) ในการขนส่งเสบียงและสัมภาระสู่สถานีอวกาศนานาชาติ เมื่อ 9 ม.ค.2014 และเพิ่งไปถึงเป้าหมายเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการทดลองของนักเรียนที่หวังจะเห็นการสร้างอาณาจักรของมดในวงโคจร
ขอบคุณข้อมูลจาก http://manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9570000004951
ประเทศไทยเป็น 1 ในประเทศอาเซียนที่มีสิทธิในการส่งสัมภาระไม่เกิน 100 กรัม ขึ้นไปโคจรในอวกาศกับโครงการ สเปซ ซีด ฟอร์ อาเซียน ฟิวเจอร์ 2010-2011 เมล็ดพันธุ์พริกขี้หนูไปแทนโคจรรอบโลกเป็นเวลานานกว่า 4 เดือน และได้เดินทางกลับสู่พื้นโลกพร้อมกับกระสวยอวกาศเอนเดฟเวอร์ (Endeavour) ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา หรือ นาซ่า
Astronaut (แอสโตรนอท) ในภาษาอังกฤษนั้น มีที่มาจากคำศัพท์ในภาษากรีก สองคำ คือ astro หมายถึงดวงดาว และ nautes ซึ่งหมายถึง กะลาสี ดังนั้น Astronaut จึงหมายถึง ลูกเรืออวกาศหรือมนุษย์อวกาศ
ขอบคุณข้อมูลจาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8
นักบินอวกาศ จะต้องผ่านการทดสอบและการฝึกฝนอย่างหนักหน่วง เพื่อให้ร่างกายชินกับสภาวะรุนแรงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะการฝึกให้ร่างกายชินกับ สภาวะไร้น้ำหนัก (Microgravity) บททดสอบเรื่องการควบคุมการใช้ส่วนต่างๆ ของร่างกาย ด้วยเครื่อง Virtual Reality (VR) ซึ่งจะมีแว่นที่มีจอภาพติดอยู่ที่ตา ถุงมือที่เชื่อมต่อไปยังจอที่ตาของผู้ฝึก ซึ่งจะทำให้เห็นภาพจำลองส่วนต่างๆ ของสถานีอวกาศนานาชาติ เสมือนอยู่ในอวกาศจริงๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.myfirstbrain.com/main_view.aspx?ID=81904
องค์การนาซา (NASA) ได้มีการฝึกการลอยอยู่ในอวกาศ ด้วยการฝึกให้ผู้ฝึกลอยตัวในสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือ NASA's Neutral Buoyancy Laboratory ณ ศูนย์วิจัยจอห์นสัน ซึ่งสระว่ายน้ำนี้มีความยาวถึง 31 เมตร กว้าง 31 เมตร และลึก 12.5 เมตร ด้วยความจุน้ำ 20 ล้านลิตร
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.nstda.or.th/sci-kids-menu/1393-astronaut
ขั้นตอนการฝึกนักบินอวกาศ ได้แก่ 1. การฝึกให้ทนแรงจี (แรงโน้มถ่วงของโลก) 2. การฝึกให้ทนต่อสภาพไร้น้ำหนัก และ 3. การฝึกทางจิตวิทยา
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.chaiyatos.com/SpaceTechnology02.htm
ยูริ เอ กาการิน คือ มนุษย์อวกาศคนแรกของโลก (อายุ 27 ปี) ได้ทะยานขึ้นสู่อวกาศในยานอวกาศวอสต็อก 1 เมื่อวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2504 ซึ่งท่องอวกาศนานถึง 108 นาที
ขอบคุณข้อมูลจาก http://genphysics.wordpress.com/2011/01/21/%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81/
บางส่วนของยานอวกาศวอสตอก 1 เกิดความเสียหาย ซึ่งเป็นผลกระทบจากรังสีต่าง ๆ ในขณะเดียวเขาต้องพยายามบังคับหนีจากแรงดึงดูดของโลกถึง 8 ครั้งจนกระทั่งสามารถเข้าสู่วงโคจรและบินสำรวจโลกภายนอกโดยรอบได้ในที่สุด ซึ่งใช้เวลาไปประมาณ 10 วัน แต่ทั้งนี้เนื่องจากยานวอสตอก 1 ไม่มีระบบชะลอความเร็วทำให้ ยูริ กาการิน ต้องดีดตัวออกมาจากยานอวกาศที่ความสูง 7 กิโลเมตร และร่อนลงสู่พื้นด้วยร่มชูชีพ เช่นเดียวกับยานวอสตอกซึ่งลงจอดโดยร่มชูชีพในทุ่งในแคว้นวอลกา ซึ่งทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีและไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ขอบคุณข้อมูลจาก http://men.kapook.com/view65891.html
หลังสร้างประวัติศาสตร์ให้วงการอวกาศได้เพียง 7 ปี กาการินก็จบชีวิตลง โดยการเสียชีวิตของกาการิน ได้รับการบันทึกจากคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ของสหภาพโซเวียต และสภารัฐมนตรีในวันที่ 28 พ.ย.1968 ว่าเป็นเรื่อง “ลับเฉพาะ” ซึ่งเอกสารของคณะกรรมการระบุว่า การซ้อมรบของกาการินและนักบินร่วมนั้น ได้นำเครื่องบินไปเผชิญกับภาวะวิกฤต และการหยุดทำงานกลางคันของเครื่องยนต์ ท่ามกลางสภาพอากาศอันย่ำแย่
ขอบคุณข้อมูลจาก http://manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000045939
จอห์น เกลน สร้างประวัติศาสตร์เป็นมนุษย์มีอายุมากที่สุดที่ได้เดินทางขึ้นสู่อวกาศ มีอายุ 77 ปี หลังจากที่เขาเคยสร้างประวัติศาสตร์ให้กับการบุกเบิกอวกาศของสหรัฐอเมริกา โดยเป็นมนุษย์อวกาศอเมริกันคนแรก ที่ได้เดินทางขึ้นไปโคจรในอวกาศรอบโลกได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 29 เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.1962
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.l3nr.org/posts/298711
นีล อาร์มสตรองทำหน้าที่เป็นนักบินในช่วงสงครามเกาหลี ในขณะทำภารกิจในการลาดตระเวนในปี 1951 เขาถูกยิงด้วยปืนต่อต้านอากาศยานและปีกของเครื่องบินหายไปข้างหนึ่ง แต่จะบินกลับไปยังสนามบินแล้วดีดตัวออกมา เขาเกือบจะตายในสงครามและจะไม่มีใครจำได้ อาร์มสตรองบิน 78 ครั้งรวมภารกิจ ในสงครามที่ฆ่า 37,000 เจ้าหน้าที่ทั้งหมดของสหรัฐอเมริกา
ในปี 1968 นีล ได้เข้าสู่โครงการ วิจัยยานลงจอดบนดวงจันทร์ ซึ่งนักบินแซวกันในชื่อ “โครงเตียงบิน” ซึ่งมันดูเหมือนเตียงติดจรวด ซึ่งดูจากรูปแล้ว มันแน่นอนว่ามันจะยากในการควบคุมจริง แล้วมันก็เกิดขึ้น เมื่อขณะยานบินอยู่สูง 100 ฟุต นีล เสียการควบคุมยาน เขาดีดตัวออกจากยาน ลงสู่พื้นด้วยร่มชูชีพ และจากการวิเคราะห์ด้วยภาพช้าพบว่า ช่วงเวลานั้น นีล มีเวลารอดแค่ 5 วิเท่านั้น แต่เขาก็รอดมาได้
ในขณะที่ ยานลูน่าโมดูลกำลังร่องลงพื้นผิวดวงจันทร์ คอมพิวเตอร์ ส่งเสียงร้อง แสดงรหัส 1202 งานเข้า อาร์มสตรอง ก็ไม่รู้มันหมายถึงอะไร จึงถามศูนย์ควบคุม “ฮุสตัน รหัส 1202 คืออะไร” ฮุสตันก็มึน ไม่รู้มันหมายถึงอะไร ซึ่งจริงๆ แล้วมันคือ รหัสแสดงว่า มีเชื้อเพลิงเหลือน้อย ซึ่งตอนลงจริงมันน้อยกว่าตอนทดสอบในเครื่องซิมมูเลเตอร์ แต่ในช่วงวินาที นีล สามารถนำเครื่องลงได้อย่างปลอดภัย
ขอบคุณข้อมูลจาก http://teen.mthai.com/variety/42555.html
อลัน บีน (Alan Bean) เป็นศิลปินเพียงคนเดียวของโลก ที่มีโอกาสได้ไปเหยียบย่างบนดวงจันทร์ โดยเขาเป็นหนึ่งในทีม Apollo 12 เมื่อปี 1969 นอกจากนี้เขายังเป็นผู้บังคับบัญชาของภารกิจ Skylab Mission II ที่ต้องใช้เวลาในการบินถึง 59 วัน เมื่อรวมทั้ง 2 ภารกิจเข้าด้วยกันแล้ว นับว่าเขาใช้เวลาอยู่ในอวกาศมากถึง 1,671 ชั่วโมงกับอีก 45 นาทีเลยทีเดียว อย่างไรก็ดี เขาออกจากการเป็นนักบินตั้งแต่ปี 1981 เพื่อไปเป็นศิลปินเต็มตัว
อลัน เชพพาร์ด (Alan Shepard) หัวหน้าทีมปฏิบัติภารกิจ Apollo14 คนนี้ ไม่เพียงแต่เดินบนดวงจันทร์เท่านั้น แต่ยังโชว์ลีลาการตีกอล์ฟบนพื้นที่แรงดึงดูดต่ำนี้ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.youtube.com/watch?v=KZLl3XwlAIE
ชาร์ลส ดุคนี่แหละเป็นหน่วยงานที่คอยประสานงานจากพื้นโลก และเป็นคนพูดประโยคตอบกลับไปว่า "คุณแทบทำคนจำนวนมากขาดอากาศตายแล้ว ตอนนี้เราค่อยหายใจได้ทั่วท้องกันซะที" หลังจากที่ นีล อาร์มสตรองรายงานกลับมายังโลกว่าเขาลงจอดบนดวงจันทร์อย่างปลอดภัยแล้ว ใครจะไปคิดล่ะว่า ต่อมาเขาจะมีโอกาสขึ้นไปเยือนดวงจันทร์ด้วยตัวเองในภารกิจ Apollo 16
ขอบคุณข้อมูลจาก http://men.kapook.com/view65925.html
มนุษย์อวกาศหญิงคนแรกของโลก คือ วาเลนทินา เทเรชโควา (ชาวรัสเซีย) ขึ้นไปกับยาน ยานวอสทอก 6 โคจรรอบโลก 48 รอบ รวมระยะเวลาที่อยู่ในอวกาศ 2 วัน 22 ชั่วโมง 50 นาที ก่อนกลับลงสู่พื้นโลกอย่างปลอดภัย
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.electron.rmutphysics.com/news/index.php?option=com_content&task=view&id=1234
พิรดา เตชะวิจิตร์ คือนักบินอวกาศหญิงคนแรกของประเทศไทย ในโครงการ แอ็กซ์ อพอลโล สเปซ อคาเดมี (AXE Apollo Space Academy)
โซนเวลาที่ใช้บนสถานีอวกาศนานาชาติ คือเวลาสากลเชิงพิกัด (UTC หรือบ้างเรียกว่า GMT) หน้าต่างสถานีจะปิดเอาไว้ในช่วงที่เป็นเวลากลางคืนเพื่อให้ได้ความรู้สึกถึงความมืด เพราะบนสถานีอวกาศนั้นจะมีดวงอาทิตย์ขึ้นและตกวันละ 16 ครั้ง
สถานีอวกาศมีส่วนพื้นที่สำหรับลูกเรือให้สมาชิกของคณะลูกเรือถาวรของ Expedition โดยมี 'สถานีนอนหลับ' ซึ่งสมาชิกลูกเรือสามารถนอนข้างในนั้นได้โดยอาศัยถุงนอน ฟังเพลง ใช้แลปท็อป หรือเก็บข้าวของส่วนตัวในลิ้นชักใหญ่หรือในตาข่ายที่ผูกติดไว้กับผนังของโมดูล ภายในโมดูลยังติดตั้งตะเกียงสำหรับอ่านหนังสือ ชั้นวางของ และเครื่องเดสค์ทอปหนึ่งตัว
ลูกเรือของสถานีอวกาศจะทำความสะอาดร่างกายด้วยการฉีดน้ำและเช็ดตัวโดยใช้สบู่จากแท่งจ่ายคล้ายหลอดยาสีฟัน ใช้น้ำยาสระผมแบบไม่ต้องล้างน้ำ และใช้ยาสีฟันแบบกลืนได้เลยเพื่อเป็นการประหยัดน้ำ
ของเสียจากห้องสุขาจะถูกนำไปเก็บและส่งต่อให้ระบบบำบัดน้ำ เพื่อจัดการรีไซเคิลกลับมาเป็นน้ำดื่มได้ใหม่
เพื่อป้องกันอาการกล้ามเนื้อลีบและอาการกระดูกเสื่อมของลูกเรือ บนสถานีอวกาศจะติดตั้งเครื่องออกกำลังกาย aRED (advanced Resistive Exercise Device) ซึ่งมีอุปกรณ์ยกน้ำหนักหลายแบบและเครื่องปั่นจักรยาน นักบินอวกาศแต่ละคนจะต้องใช้เวลาในการออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 2 ชั่วโมง
ขอบคุณข้อมูลจาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4
ในสถานีอวกาศ มีระบบECLSS (Environmental Control and Life Support System) มีหน้าที่ในการสร้างก๊าซออกซิเจนผ่านกระแสไฟฟ้า โดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์แยกโมเลกุลของนํ้าออกเป็นก๊าซไฮโดรเจน และออกซิเจนคล้ายกับกระบวนการสังเคราะห์แสง (Photosynthesis) บนโลก และจะปล่อยก๊าซไฮโดรเจนออกสู่อวกาศ นอกจากนี้ ECLSS ยังทำหน้าที่ในการกำจัดก๊าซแอมโมเนีย อะซีโตน และคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นของเสียที่เกิดจากนักบินอวกาศหรือเกิด จากการทดลองอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก http://ostc.thaiembdc.org/stnews_May11_6.html
โครงสร้างภายในของสถานีอวกาศแบ่งออกเป็น 3 ชั้น คือ Flight Deck (ชั้นควบคุมการบิน) Middeck (ชั้นอเนกประสงค์) และ Life Support and Housekeeping Deck (ชั้นอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ) โดยชั้น Middeck กว้างประมาณ 2.7-3.7 เมตร และยาวประมาณ 4 เมตร เป็นชั้นที่ลูกเรือหรือนักบินอวกาศส่วนใหญ่ใช้ในการรับประทานอาหาร นอนหลับ อาบนํ้า และพักผ่อน ในพื้นที่ดังกล่าวประกอบ ด้วยห้องนํ้า อ่างล้างหน้า เตาอบ ตู้เก็บของ เตียงนอนแบบพับได้ โต๊ะ ตู้เย็น เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก http://ostc.thaiembdc.org/stnews_May11_6.html
ชุดอวกาศยังช่วยป้องกันตัวนักบินจากสภาพบรรยากาศและอุณหภูมิสูงถึง 121 องศาเซลเซียส หรืออุณหภูมิต่ำกว่า -156 องศาเซลเซียส ดังนั้น"ชุดอวกาศ เปรียบเสมือน เกราะชีวิตของนักบินอวกาศ" หากไม่สวมชุดอวกาศขณะเคลื่อนที่ในอวกาศ มนุษย์อวกาศจะสลบภายใน 15 วินาที ของเหลวในร่างกายจะเกิดฟองและแข็งตัวถึงจุดเยือกแข็ง
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.nstda.or.th/sci-kids-menu/1363-spacesuits
ชุดอวกาศสำหรับใช้สวมใส่ขณะเดินทางออกหรือเข้าสู่โลก ของสหรัฐอเมริกาจะเป็นชุดสีส้ม เราจะเห็นเฉพาะตอนที่นักบินขึ้นไปกับยานอวกาศ ส่วนของรัสเซียจะเป็นชุดสีขาวที่เรียกว่าชุด sokul เอกลักษณ์คือ ตามข้อต่อชุดจะเป็นห่วงอะลูมิเนียมสีน้ำเงิน แต่ชุดที่ใส่ออกไปนอกยานอวกาศจะใช้ชุดอีกชุดหนึ่งเรียกว่าชุด orlan
ขอบคุณข้อมูลจาก http://board.postjung.com/721487.html
เชรตอฟสกี้ ทำงานเป็นวิศวกรของสถาบันการแพทย์อวกาศ และเขาเป็นคนแรกของโลก ที่ออกแบบชุดปรับความดัน (pressure suit ) เต็มตัวเมื่อปี 1931 ที่นำไปใช้สำหรับนักบินที่ถูกส่งขึ้นบอลลูนเพื่อขึ้นไปสำรวจชั้นบรรยากาศระดับสูงของโลก
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.sbpac.go.th/index.php?option=com_k2&view=item&id=1118:2013-12-15-05-43-59
ชุดนักบินอวกาศมีทองคำผสมอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้นักบินอวกาศกระทบกับรังสีในอวกาศที่มีพลังงานสูง นอกจากนี้ยังมีการใช้ทองคำบริสุทธิ์เคลือบกับเครื่องยนต์ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ หมวกเหล็ก เกราะบังหน้า และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ในอวกาศ เนื่องจากทองคำที่มีความหนา 0.000006 นิ้ว จะมีคุณสมบัติช่วยสะท้อนรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์ไม่ให้ทำลาย หรือลดประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์เหล่านี้
ขอบคุณข้อมูลจาก http://lecturepw.blogspot.com/2010/02/blog-post_08.html
ชุดสูทนักบินอวกาศ SK-1 ของยูริ กาการิน นักบินอวกาศคนแรกของโลก ผลิตโดย เอ็นพีพี สเวียซด้า ของรัสเซีย ซึ่งชุดดังกล่าวมีน้ำหนักประมาณ 122.5 กิโลกรัมเมื่ออยู่บนพื้นโลก และใช้เวลาในการสวมใส่ 45 นาที แถมยังเป็นสีส้มสด เพื่อให้ง่ายต่อการตามหาตัวเมื่อถึงพื้นดินด้วย อีกทั้งในสถานีอวกาศยังมีตู้เสื้อผ้าสำรองให้ด้วย โดยส่วนมากลูกเรือจะเปลี่ยนชุดกันทุก ๆ 3 วัน
ขอบคุณข้อมูลจาก http://men.kapook.com/view69828.html
10 อันดับอาหารยอดฮิตของนักบินอวกาศ คือ ช็อกโกแลตเอ็มแอนด์เอ็ม / ไอศครีม / น้ำส้ม / โค้กและเป็บซี่ / สไปซี่กรีนบีน / แคนาสแน็ก / สเปซราเม็งซุป / แอนไทแมตเทอร์ / เมล็ดมะเขือเทศและเมล็ดเบซิล / ค๊อกเทลกุ้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก http://campus.sanook.com/1021546/10-%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AE%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8/
อาหารสำหรับนักบินอวกาศในยุคแรก (โครงการเมอร์คิวรี) เป็นอาหารแห้งกึ่งสำเร็จรูป และอาหารกึ่งเหลวที่บรรจุในหลอดทำจากอะลูมิเนียมคล้ายหลอดยาสีฟัน ภายในหลอดมีการฉาบวัสดุพิเศษ ป้องกันการก่อตัวของแก๊สไฮโดรเจนซึ่งเป็นปฏิกิริยาระหว่างผิวโลหะกับอาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น น้ำแอปเปิล หลอดอะลูมิเนียมที่ใช้ในยุคแรกมักมีน้ำหนักมากกว่าอาหารที่บรรจุอยู่ภายใน ต่อมาจึงมีการพัฒนาเป็นหลอดพลาสติกน้ำหนักเบา จะว่าไปแล้วนักบินอวกาศไม่ค่อยพิสมัยกับอาหารแบบนี้นัก เพราะส่วนมากมีรสชาติไม่น่ารับประทาน และยุ่งยากในการเติมน้ำให้กับอาหารแห้งกึ่งสำเร็จรูป
ขอบคุณข้อมูลจาก http://thaiastro.nectec.or.th/library/spacefood/spacefood.html
วิธีถนอมอาหารแบบล่าสุดของนักบินอวกาศที่ทำให้อาหารดูน่ากิน คือ การขจัดน้ำออกจากอาหารจนแห้งสนิท (dehydration) ซึ่งยังมีข้อดีอีกคือช่วยลดน้ำหนักของที่ยานต้องบรรทุก อาหารที่ขจัดน้ำออกหมดแล้ว ต้องนำมาทำให้คืนสภาพชุ่มน้ำก่อนจึงกินได้น่าแปลกที่ยานกระสวยอวกาศไม่ขาดน้ำ เพราะน้ำเป็นผลพลอยได้จากเซลล์เชื้อเพลิงที่ผลิตกระแสไฟฟ้าให้ยาน
ขอบคุณข้อมูลจาก http://rmutphysics.com/charud/naturemystery/space1/space1.htm
นักบินอวกาศเป็นคนเตรียมเมนูเองก่อนที่จะขึ้นบินไปยังสถานีอวกาศโดยมีนักโภชนาการเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ ความรู้สึกถึงรสชาติเมื่ออยู่ในวงโคจรจะลดลงเพราะของเหลวในร่างกายจะเคลื่อนขึ้นไปทางศีรษะ ดังนั้นลูกเรือส่วนมากจึงนิยมรับประทานอาหารรสเผ็ด ลูกเรือแต่ละคนจะมีแพ็คเกจอาหารของตัวเองและเตรียมอุ่นอาหารกันเองในห้องครัวบนสถานี
ขอบคุณข้อมูลจาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4
เมื่อนักบินอวกาศต้องการจะรับประทานก็นำน้ำใส่ในถุงอาหารเล็กน้อย พอให้อาหารด้านในคืนสภาพ แล้วอบด้วยตู้อบความร้อนสูง ซึ่งมีอุณหภูมิประมาณ 160-170 องศาเซลเซียส ใช้เวลาสำหรับเตรียมอาหารประมาณ 20-30 นาที คล้ายกับอาหารสำเร็จรูปทั่วไป ก่อนที่จะรับประทานนักบินแต่ละคนก็จะใช้สายรัดบนผนังในห้องครัวคาดเอวเอาไว้ จากนั้นนักบินอวกาศก็นำกรรไกรมาตัดปากถุงและรับประทาน
ขอบคุณข้อมูลจาก http://men.kapook.com/view67519.html
การเข้าห้องน้ำในยานอวกาศลำแรกๆ นักบินอวกาศใข้แถบกาวติดถุงเข้ากับส่วนของร่างกายตามต้องการแต่ก็เป็นการปฏิบัติกิจที่ไม่สะดวกสบายเลย แต่ในยานกระสวยอวกาศ นักบินมีส้วมชักโครกซึ่งใช้อากาศ ไม่ใช้น้ำ มีที่ยืดเท้าและเข็มขัดรัดตัวให้ติดที่นั่ง ส่วนการถ่ายปัสสาวะจะต้องถ่ายไปตามท่อที่แยกไว้ต่างหาก ท่อนี้โค้งงอได้ปากท่อบานเป็นถ้วย รูปทรงปากขอบเหมาะให้ใช้งานได้ทั้งชายและหญิง ปัสสาวะจะไหลตามท่อด้วยกระแสอากาศไปพักไว้ชั่วคราวที่นอกตัวยานอวกาศซึ่งเป็นที่ซึ่งน้ำเสียระเหยไปได้
ขอบคุณข้อมูลจาก http://rmutphysics.com/charud/naturemystery/space1/space1.htm
สำหรับสถานีอวกาศนานาชาติในปัจจุบันนี้มีลูกเรือหมุนเวียนขึ้นไปประจำการ และตั้งแต่ปี 2000 ปัสสาวะของพวกเขาก็ถูกนำไปรีไซเคิลผ่านระบบกรองเพื่อนำกลับมาเป็นน้ำดื่ม ส่วนกากของเสียจากร่างกายจะถูกบรรจุหีบห่อ แล้วโยนออกจากสถานีอวกาศพร้อมกับขยะอื่นๆ เพื่อให้เผาไหม้ในชั้นบรรยากาศ
ขอบคุณข้อมูลจาก http://manager.co.th/science/viewnews.aspx?NewsID=9560000115033
นักบินอวกาศจะได้รับฟองนํ้าเปียกหรือผ้าเปียกสำหรับใช้ในการอาบนํ้าจำนวนสองผืนของ ทุกวัน โดยผืนหนึ่งใช้สำหรับการขัดถู อีกผืนไว้สำหรับเช็ดทำความสะอาด
ขอบคุณข้อมูลจาก http://ostc.thaiembdc.org/stnews_May11_6.html
ยาสระผมหรือแชมพูนั้น เป็นแบบที่ไม่ต้องล้างออก แบบเดียวกับที่โรงพยาบาลนำมาใช้กับคนไข้
นักบินอวกาศจะต้องรัดตัวเองด้วยแถบรัดก่อนจึงจะสามารถนอนหลับได้ เพื่อป้องกันการลอยไปกระแทกกับสิ่งต่างๆ ซึ่งภายในสถานีอวกาศจะมี ถุงนอนที่สามารถยึดติดกับผนังหรือเก้าอี้ได้ ทำให้ลูกเรือสามารถนอนที่ไหน ก็ได้ภายในสถานี นอกจากถุงนอนแล้ว ยังมีที่นอนสำหรับหนึ่งคนแยกอยู่ภายในสถานีอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก http://ostc.thaiembdc.org/stnews_May11_6.html
นักบินอวกาศสามารถฝันและนอนกรนได้เสมือนตอนใช้ ชีวิตอยู่บนโลก ซึ่งนักบินอวกาศแต่ละคนจะต้องใส่หน้ากากและที่อุดหูขณะนอนหลับ เนื่องจากอาจถูกเสียงจากสถานีหรือสมาชิก คนอื่นๆ และแสงรบกวน ทำให้ไม่สามารถนอนหลับได้อย่างสนิท และทำให้เกิดการสะสมของความเครียดในที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก http://ostc.thaiembdc.org/stnews_May11_6.html
ถ้านักบินอวกาศคนใหนใด้ตรวจพบว่ามีโรคเขาก็จะได้รับการรักษา สองสามวันก่อนออกเดินทางนักบินอวกาศก็จะต้องโดนกักกันจากเชื้อแบคทีเรียและไวรัสเพื่อจะป้องกันให้พวกเขาไม่ติดเชื้อโรคใด้.ถ้าพวกเขาใด้ออกเดินทางแลัวและถ้าหนึ่งในนักบินอวกาศเกิดป่วยขึ้นมาและต้องพบแพทย์ทันที(เช่นเป็นไส้ติ่งอักเสบ)คนนั้นเขาก็จะถูกส่งตัวกลับโลกด้วยที่เขาเรียกกันว่า Capsule(แคปซูล)
ขอบคุณข้อมูลจาก http://iq-trainer.blogspot.com/2013/03/blog-post_3798.html
นักบินอวกาศสามารถโทรศัพท์ติดต่อกับครอบครัวที่อยู่บนโลกได้จากสถานีอวกาศผ่านการใช้ Softphone ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้โทรออกจากคอมพิวเตอร์โดยใช้ระบบอินเตอร์เน็ต โปรโตคอล (Internet Protocol: IP) เพื่อต่อสัญญาณ หลังจากนั้น ลูกเรือก็ จะสามารถใช้คอมพิวเตอร์ในการกดหมายเลขโทรออกไปที่ใดก็ได้ในโลก
ขอบคุณข้อมูลจาก http://ostc.thaiembdc.org/stnews_May11_6.html
ขอบคุณข้อมูลจาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%AE%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%A5
หลังจากปฏิบัติภารกิจในอวกาศเป็นเป็นเวลานาน เมื่อนักบินอวกาศได้เดินทางกลับมายังโลกแล้ว คุณหมอเบนจามิน เลวิน ที่ทำงานให้กับศูนย์การแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยเท็กซัสเซาท์เวสเทิร์น กล่าวว่า ไม่เพียงแต่นักบินอวกาศจะสับสนในระบบการทรงตัวของตนเองเท่านั้น ระบบประสาทสัมผัสภายในที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวก็แทบจะโยนทิ้งไปได้เลย นอกจากนี้ กระดูกและกล้ามเนื้อของนักบินอวกาศเหล่านี้ก็มีสภาพเสื่อมลง
ขอบคุณข้อมูลจาก http://nstda.or.th/blog/?p=4597
นักบินอวกาศส่วนใหญ่จึงเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์สูงกว่าคนปกติทั่วไปโดยเฉพาะนักบินอวกาศที่ออกสำรวจบนดาวต่าง ๆ เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากรังสีคอสมิกที่แพร่กระจายอยู่ในห้วงอวกาศโดยตรง เพราะไม่มีสิ่งใดปกป้อง แตกต่างจากบนโลกที่มีชั้นบรรยากาศคอยปกป้องผู้คนให้ปลอดภัยจากรังสีดังกล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก http://men.kapook.com/view69828.html
ในปี ค.ศ. 1957 สหภาพโซเวียต ได้ส่ง สปุตนิก 1 โครงการส่งยานอวกาศไร้คนขับ ขึ้นสู่วงโคจรของโลกเป็นประเทศแรก ซึ่งถือเป็นสุดยอดความสำเร็จในการแข่งขันในการเป็นผู้นำทางด้านอวกาศ ในช่วงยุคสงครามเย็น
พ.ศ. 2536 ดาวเทียมไทยคม ดาวเทียมดวงแรกของไทย ถูกส่งขึ้นวงโคจร จากฐานส่งของบริษัท แอเรียนสเปซ แห่งฝรั่งเศส ที่เมืองคูรู ประเทศเฟรนช์ เกียนา ทวีปอเมริกาใต้
ดาวเสาร์เบาจนลอยน้ำได้ น้ำหนักเบาขนาดที่ว่าสามารถลอยตัวอยู่บนน้ำได้เลย เพราะมีความหนาแน่นแค่เพียง 0.687 กรัม ต่อ ลูกบาศก์เซนติเมตร
ดวงจันทร์ไม่ได้กลม เพราะหากเราออกไปยืนมองดวงจันทร์จากบนโลก จะเห็นด้านสั้นที่สุดชี้ตรงมาหาเรา และศูนย์กลางมวลของดวงจันทร์ ไม่ได้อยู่ตรงเส้นศูนย์กลางทางภูมิศาสตร์ของดวงจันทร์
แสงอาทิตย์ที่เรามองเห็นอยู่ทุกวัน มีอายุมากกว่า 30,000 ปีแล้ว นับตั้งแต่มีพลังงานเกิดขึ้นในแกนกลางแล้วแทรกซึมผ่านทุกอนุภาคของดวงอาทิตย์ จนกระทั่งเปล่งแสงออกมาจากพื้นผิวและกระจายไปทั่วทั้งห้วงอวกาศ โดยแสงเหล่านั้นถูกส่งต่อมายังโลกของเราภายใน 8 นาทีเท่านั้น
หลุมดำที่คำนวณเจอ ตอนนี้มีอย่างน้อยๆ 14 ดวงแล้ว แต่ ไม่ต้องตกใจไป ดวงที่ใกล้สุดอยู่ที่กาแล็กซี่ Cygnus-1 ที่ห่างจากโลกไป 8 พันล้านปีแสง เจ้าดวงดาวความหนาแน่นสูงที่ชื่อว่าแบล็กโฮลนี้จะดูดเฉพาะสิ่งที่อยู่รอบเส้นขอบฟ้าของมันเท่านั้น จึงไม่ต้องกลัวว่ามันจะทำลายจักรวาล นอกจากนั้น หลุมดำเล็กๆเหล่านี้ บางทีก็อยู่ใกล้กันจนมีสิทธิ์ดูดกันเองได้ด้วย
อุณหภูมิ สูง-ต่ำ บนดวงจันทร์ต่างกันสุดขั้ว โดยอุณหภูมิที่เส้นศูนย์สูตรของดวงจันทร์ตอนกลางคืนต่ำถึง -173 องศาเซลเซียส และสูงถึง 127 องศาสเซลเซียสในตอนกลางวัน
ในพระอาทิตย์มีไฮโดรเจนและฮีเลียมเป็นส่วนประกอบหลัก ต่างจากโลกของเราที่ก๊าซส่วนใหญ่เป็นออกซิเจน ทำให้มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้ ก๊าซฮีเลียมที่อยู่ในดวงอาทิตย์นั้นก็เหมือนกับอากาศที่อยู่ในลูกโป่งที่ทำให้เสียงคุณเปลี่ยนไปแบบตลกๆนั่นแหละ
แท้จริงแล้วพระอาทิตย์นั้นสว่างมากจนมีสีขาว แต่เราจะเห็นมันเป็นสีส้มจากบนโลกเพราะการตัดสีกับชั้นบรรยากาศและก้อนเมฆต่างๆทำให้สีที่เราเห็นนั้นเปลี่ยนไป
Olympus Mons คือยอดเขาที่สูงที่สุดบนดาวอังคารและสูงที่สุดในระบบสุริยะ โดยมีความสูงถึง 22 กิโลเมตร ซึ่งสูงกว่ายอดเขา Everest ถึง 3 เท่า
Boomerang Nebula คือ สถานที่ หนาวเย็นที่สุดในจักรวาล มันมีอุณหภูมิสูงกว่า อุณหภูมิศูนย์สัมบูรณ์เพียง 1 องศาเซลเซียล เท่านั้น
ของเหลวกลมดิ๊กเมื่ออยู่บนอวกาศ รูปร่างขอของเหลาวจะเปลี่ยนไปตามภาชนะที่บรรจุ แต่เมื่อของเหลวอยู่ภายใต้สภาวะไร้น้ำหนัก หากกระเซ็นออกมาจากภาชนะหรือร่างกายของคน ก็จะแปรเปลี่ยนรูปร่างเป็นทรงกลมทันที ภายใต้ผิวหน้าที่เรียบตึงราวกับมีพลาสติกห่อหุ้ม // ของเหลวในอวกาศจะจับตัวเป็นทรงกลมเสมอ เนื่องมาจากผลของแรงตึงผิวและแรงดึงดูด หากเราปล่อยของเหลวให้ลอยล่องในอวกาศ พวกมันจะจับกลุ่มเป็นทรงกลมทันที
โลหะต่อติดแบบอัตโนมัติในห้วงอวกาศ หรือที่เรียกว่า เชื่อมแบบเย็น ทำให้ทางนาซาต้องเคลือบชิ้นส่วนของยานอวกาศด้วยสารป้องกันการเกาะติด เพื่อป้องกันไม่ให้ชิ้นส่วนของยานอวกาศติดกัน
ไม่ว่าเป็นใครก็ตาม หากได้ขึ้นไปอยู่ในห้องอวกาศแล้ว ความสูงของคุณจะเพิ่มขึ้น 2 นิ้วทันที เพราะในห้วงอวกาศไม่มีแรงดึงดูด ทำให้กระดูกสันหลังของเรายืดตัวได้ยาวยิ่งขึ้น
รอยเท้าของเหล่านักบินอวกาศที่ประทับลงบนพื้นผิวดวงจันทร์นั้น จะคงอยู่ชั่วนิรันดร์โดยไม่ลบเลือน นานเป็นล้านปี นั่นเป็นเพราะบนดวงจันทร์ไม่มีอากาศและลมนั่นเอง
เราไม่อาจได้ยินอะไรในอวกาศได้เลย เพราะในอวกาศไม่มีตัวกลางที่จะสั่นเพื่อจะส่งเสียงต่อมายังที่หูของเรา
องค์การนาซา มีโครงการจะไปเริ่มสร้างเมืองในอวกาศ โดยเลือกพื้นที่ดาวอังคาร เพราะมีสภาพเหมือนกับโลก ซึ่งวางแผนไว้ว่าในปี ค.ศ. 2020 มนุษย์จะลงไปบนดาวอังคารเป็นครั้งแรก เพื่อจะเริ่มไปเยี่ยมไปศึกษา อยู่ที่นั่นสักพัก
นักดาราศาสตร์เจอ “ดาวแคระน้ำตาล” ที่หนาวเย็นที่สุดในประเภทของดาวฤกษ์ชนิดนี้ เป็นเพื่อนบ้านดวงอาทิตย์ของเรา อยู่ห่างออกไปแค่ 7.2 ปีแสง
ในปี 2549 ที่ประชุมสหพันธ์ดาราศาสตร์สากล ที่กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ได้มีมติกำหนดนิยามใหม่ของดาวเคราะห์คือวัตถุทรงกลมที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ และอยู่ห่างจากดาวรอบข้างในวงโคจรของตัวเอง ส่งผลให้ดาวพลูโตถูกปลดออกจากการเป็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ คงเหลือดาวเคราะห์เพียง 8 ดวง เนื่องจากดาวพลูโตไม่สามารถควบคุมแรงดึงดูดและวงโคจรของสิ่งต่างๆ ที่อยู่นอกระบบสุริยะ และให้ถือว่าดาวพลูโตเป็น ดาวเคราะห์แคระ
NASA เผยภาพหลุมดำพลังงานมหาศาลดูดกลืนดาวขนาดใหญ่ ใจกลางแกแล็กซี่
'Hangeng' ว่าที่ "นักบินอวกาศ" คนใหม่! หนึ่งในทีมผู้เดินทางในอวกาศสมัครเล่น เดินทางท่องอวกาศในปี 2014 นี้
นิทรรศการ NASA a Human Adventure จะเกิดขึ้นปลายปี 2014 จะได้สัมผัสและเรียนรู้เรื่องอวกาศ ตั้งแต่คนคิดริเริ่มที่จะเดินทางไปอวกาศ การใช้ชีวิตอยู่ในยานอวกาศ ทั้งการเข้าห้องน้ำ อาหาร การกิน การนอน เรียนรู้เรื่องราวของการแข่งขันระหว่างรัสเซียกับอเมริกาในการปล่อยยานอวกาศ
NASA ได้ทำการเปิดบัญชี Instagram โดยใช้ชื่อว่า nasa เพื่อแชร์ภาพภารกิจเกี่ยวกับการสำรวจอวกาศ รวมถึงการสำรวจดวงดาวต่าง ๆ จากนอกโลก หลังจากเปิดใช้ไม่ถึง 24 ชั่วโมง NASA instagram ก็มีผู้ติดตามกว่า 30,000 รายแล้ว
นักบินนาซาถ่ายภาพและคลิปวิดีโอผ่านทาง NASA Instagram ให้ผู้ติดตาม IG NASA ได้รับชมกันแบบสดๆ
รู้หรือไม่ยานอวกาศ แลดดี (LADEE) ถูกปล่อยเพื่อขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์เป็นเวลา 100 วัน ใช้งบประมาณถึงกว่า 280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8,400 ล้านบาทเลยทีเดียว
NASA เผยให้เห็นแสงสีเขียวสว่างไสว ปกคลุมอ่าวไทย จากเรือประมงไทย เป็นความงามที่เห็นได้จากนอกโลก
NASA กับชุดอวกาศรูปแบบใหม่ Z-2 ดีไซน์คล้ายกับชุดแห่งอนาคตในหนังเรื่อง ทรอน (Tron)
นาซ่าเริ่มทำการสำรวจดวงจันทร์ โดยใช้ชื่อโครงการว่า อพอลโล 11 ถึงอพอลโล 17 ซึ่ง เป็นภารกิจที่ลงจอดบนดวงจันทร์ทั้งหมดและได้ขยายพื้นที่การสำรวจออกให้กว้างมากขึ้น
โครงการ อพอลโลครั้งสุดท้ายที่ได้ออกปฏิบัติภารกิจที่ดวงจันทร์อย่างเป็นทางการอันล่าสุดก็คือโครงการอพอลโล 17 ที่ได้ปฏิบัติภารกิจไปในปี ค.ศ.1972
โครงการอพอลโล 20 มีการค้นพบเศษซากยานอวกาศยักษ์ เมืองโบราณ รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาจากต่างดาว
โครงการอพอลโล 20 ไม่เคยเกิดขึ้นจริง หรือถ้าจะว่าให้ถูกก็คือ โครงการ อพอลโลตั้งแต่ 18 เป็นต้นมานั้น ถูกยกเลิกโดยทางนาซ่า เนื่องจากขาดทางด้านเงินทุนและถูกตัดงบประมาณจากทางรัฐบาล
NASA มีแผนจะปล่อยยานอวกาศพลังงานลมสุริยะขึ้นสู่วงโคจรของโลก
NASA ทดสอบปล่อยร่มชูชีพยาน Orion ยานลำนี้จะส่งไปบนดวงจันทร์และโครงการสำรวจดาวอังคาร
Link:http://www.techshabu.com/2013/05/04/orion-multi-purpose-crew-vehicle/
ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์พ่นมวลโคโรนาออกมา สามารถเทียบได้กับระเบิดปรมาณูที่กองทัพสหรัฐฯใช้ทำลายเมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นับแสนล้านลูก
องค์การบริหารอวกาศและการบินแห่งชาติของสหรัฐ (นาซา) เปิดโอกาสให้คนทั่วไป เข้ามามีส่วนร่วมโหวตดีไซน์ชุดอวกาศใหม่ผ่านทางออนไลน์ เพื่อเลือกแฟชั่นที่ถูกใจมหาชนมากที่สุด
ชุดที่กลายเป็นแฟชั่นใหม่ สำหรับมนุษย์อวกาศที่จะขึ้นไปบนดาวอังคาร ชื่อว่า “ซี-ทู สูท" (Z-2 suit) ซึ่งคว้าคะแนนเสียงท่วมท้นถึง 63% จากจำนวนผู้ลงคะแนนมากกว่า 2.3 แสนคน
ยานอวกาศวอยเอเจอร์ 1 ซึ่งเป็นยานสำรวจอวกาศขององค์การนาซาได้เดินทางหลุดออกไปจากขอบเขตของระบบสุริยะ
องค์กรนาซามีศูนย์วิจัยหลัก 10 ศูนย์เลยทีเดียว
คนที่ทำงานให้นาซ่า ซึ่งเป็นองค์การของรัฐ ต้องเป็นข้าราชการ นั่นหมายถึงต้องเป็นคนอเมริกัน (เสื้อสายใดก็ได้ แต่ต้องสัญชาติอเมริกัน)
ดาวเคราะห์ใหม่ 715 ดวง ที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ ทำให้จำนวนดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะที่ค้นพบเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 1,700 ดวงแล้ว
ในจำนวนดาวเคราะห์ที่นาซาค้นพบใหม่ทั้ง 715 ดวง มีดาวเคราะห์ 4 ดวงที่อยู่ในเขตเอื้อชีวิต
นักดาราศาสตร์จากนาซาพบว่ามีดาวเคราะห์ดวงใหม่ที่เปลี่ยนนิยามคำว่าดาวเคราะห์ไปอย่างสิ้นเชิง
นาซา ค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะคล้ายโลกดวงใหม่
"ดร.ก้องภพ อยู่เย็น" ได้ก้าวขึ้นเป็น "วิศวกรคนไทย" ที่อายุน้อยที่สุดในองค์การนาซ่า
NASA ค้นพบดาวเคราะห์คู่แฝดของโลกห่างออกไป 600 ปีแสง
NASA ทำลายสถิติในการสื่อสารในอวกาศด้วยการส่งข้อมูลจำนวนมหาศาลไปยังดวงจันทร์ ผ่านแสงเลเซอร์ที่ยิงไปในพริบตา
องค์การ NASA นำมดขึ้นไปทดลองอยู่บนสถานีอวกาศนานาชาติ
NASA มีการออกแบบยานอวกาศเป็นรูปทานตะวัน
มีคนไทยทำงานใน NASA (ดร.อาจอง ชุมสาย) ตำแหน่ง วิศกร องค์การนาซา
NASA พบแสงปริศนาบนดาวอังคาร
หินลึกลับ บนดาวอังคาร เชื่อว่าอาจเป็นสิ่งมีชีวิต
NASA ประกาศค้นพบดาวเคราะห์ใหม่ 715 ดวง ที่โคจรรอบดาวฤกษ์เช่นเดียวกับโลก เผย 4 ดวงมีลุ้นอาจมีสิ่งมีชีวิต
แม้จะอยู่กลางอวกาศ แต่ไวรัสคอมพิวเตอร์ก็ยังสามารถเล่นงานเครื่องคอมพิวเตอร์ได้
NASA พบหลักฐาน ทะเลสาบโบราณ บนดาวอังคาร
NASA เตือนอุกกาบาต จ่อพุ่งชนโลกปี 2040
NASA ค้นพบว่าดวงจันทร์หดตัวลง
NASA ยืนยันไปดาวอังคารเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง
Link:http://bkkplanetarium.blogspot.com/2013/06/blog-post.html
NASA ค้นพบ “กรวด”ร่องรอยการกัดเซาะของธารน้ำบนดาวอังคาร
ไม่มีอะไรสามารถหยุดการละลายของธารน้ำแข็ง West Antarctic ได้
ปรากฎการณ์ Super Moon คือปรากฎการณ์ที่ดวงจันทร์โคจรเข้าใกล้โลกมากที่สุด จะมีให้เห็น 2-3 ปีต่อ 1 ครั้งเท่านั้นและอาจเกิดผลกระทบต่อโลกได้
นักบินอวกาศสามารถเลือกรับประทานอาหารได้ตามใจชอบมากขึ้น ด้วยการปรุงอาหารผ่านเตาอบความร้อนสูง ที่มีความสะดวกสบายและรวดเร็ว
NASA ใช้ประเทศไทยในการวิจัยภาวะโลกร้อน
NASA ใช้แสงเลเซอร์ต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงไปดวงจันทร์ได้ในพริบตา
NASA ฉลองครบ 50 ปี โดยการส่งเพลง บีตเทิลส์ไปดาวเหนือ
NASA พบหลักฐานหลุมดำมีจริงยุคต้นจักรวาล
ใช้โคมไฟ NASA สามารถช่วยผู้ป่วยมะเร็งได้